ดูแลผู้สูงอายุ

ดูแลผู้สูงอายุ

เมื่อเรามีอายุมากขึ้น มีหลายปัจจัยที่ทำให้การใช้ชีวิตในวัยผู้สูงอายุอย่างอิสระยากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความเจ็บป่วย ความกังวลเรื่องการเคลื่อนไหวร่างกายหรือความเหงา สิ่งสำคัญคือต้องแน่ใจว่าคุณได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสม หากคุณกำลังดูแลพ่อแม่ผู้สูงอายุหรือคนที่คุณรักด้วยตัวของคุณเอง แน่นอนว่านั่นไม่ใช่งานง่ายเลยแต่ขอให้สบายใจได้เพราะว่าปัจจุบันมีนวัตกรรมมากมายหลายสิ่งที่สามารถช่วยเหลือคุณได้ เช่น เงินช่วยเหลือผู้ดูแลเพื่อการดูแลบุคคลทุพพลภาค และการสนับสนุนการดูแลส่วนบุคคล 

 การดูแลผู้สูงอายุด้านต่าง ๆ

ปกติแล้วผู้สูงอายุนอกจากจะมีปัญหาสุขภาพทางร่างกาย ยังอาจพบเจอปัญหาทางจิตที่เกี่ยวข้องอีกด้วย อันเนื่องมาจากสภาพร่างกายที่เสื่อมโทรมไปตามวัยจึงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หากใครมีผู้สูงอายุต้องดูแลในครอบครัว ควรลดการพึงพาตัวเองของผู้สูงวัย แต่ต้องใส่ใจเขามากขึ้นทั้งในด้านปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ผู้สูงอายุเพื่อให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีซึ่งผู้ที่มีบทบาทสำคัญคือคนในครอบครัวที่จะเข้าใจปัญหาของผู้สูงอายุได้อย่างดีและเพื่อการดูแลคลกลุ่มนี้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ทางเราขอเสนอ 10 วิธีจดจำง่ายเมื่อต้องดูแลผู้สูงอายุ

1. เลือกอาหารที่เหมาะสมและเหมาะสมกับผู้สูงอายุ เพราะคนกลุ่มนี้อยู่ในช่วงวัยที่ร่างกายมีการใช้พลังงานน้อยลง เนื่องจากมีกิจกรรมประจำวันมีไม่มากนักที่อาจส่งผลให้ใช้พลังงานในแต่ละวันน้อยลง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องลดการบริโภคแป้ง น้ำตาล และไขมัน รวมทั้งอาหารทอด อาหารทอดเพื่อลดการสะสมของพลังงานที่จะไม่ถูกดึงไปใช้ หันมาเน้นอาหารจำพวกโปรตีนจากปลามากขึ้น และเปลี่ยนไปใช้วิธีทำอาหารจำพวกต้ม นึ่ง ย่าง อบเป็นหลัก

2. ควรพาผู้สูงอายุออกกำลังกายอย่างพอเหมาะและสม่ำเสมอ เช่น การเริ่มต้นออกกำลังกายด้วยการเต้นแอโรบิคประมาณสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 30 นาทีแต่ในกรณีที่ผู้สูงอายุไม่เคยได้รับการออกกำลังกายมาก่อน ผู้ดูแลจำเป็นต้องศึกษาหลักการ ให้ถูกต้องและค่อย ๆ ทำ ไม่ควรให้ผู้สูงอายุหักโหมออกกำลังกายและหากมีโรคประจำตัว ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ แต่ในกรณีที่ผู้สูงอายุที่ไม่ได้มีโรคประจำตัว 

การออกกำลังกายแบบแอโรบิคมีประโยชน์อย่างมากในการลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ ควรให้ผู้สูงอายุยืดกล้ามเนื้อเพื่อทำการวอร์มอัพก่อนเริ่มออกกำลังกาย แล้วค่อย ๆ เพิ่มความหนักของการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง หากเหนื่อยหรือรู้สึกไม่ดีไม่ควรฝืนออกกำลังกายเด็ดขาดและควรสังเกตอาการผิดปกติ หากพบความผิดปกติแนะนำให้ปรึกษาแพทย์

3. ควรให้ผู้สูงอายุอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ เนื่องจากผู้สูงอายุควรมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดี อากาศต้องระบายเยี่ยม ในอากาศบริสุทธิ์สามารถช่วยแก้ปัญหาสุขภาพจิตได้เพราะผู้สูงอายุส่วนใหญ่ไม่ค่อยออกไปข้างนอก ดังนั้นบ้านไม่ควรมีกลิ่นเหม็นอับหรือสิ่งของล่วงหล่นตามพื้นบ้าน ควรมีการปลูกต้นไม้ ปรับภูมิทัศน์ภายในบ้านให้ปลอดโปร่ง โล่ง สะอาด

นอกจากนี้ ควรพาผู้สูงอายุออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์บ้างเป็นครั้งคราว เช่น การพาไปเที่ยวต่างจังหวัดเพื่อพักผ่อนและอาศัยธรรมชาติที่สวยงามเพื่อให้ระบบหายใจที่ดีซึ่งช่วยลดโอกาสการเจ็บป่วยหรือหากไม่สะดวกไปต่างประเทศคุณสามารถเลือกสวนสาธารณะใกล้เคียงเพื่อให้ผู้สูงอายุได้เปิดหูเปิดตา สัมผัสอากาศบริสุทธิ์

4. ดูแลผู้สูงอายุ อย่าให้เกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการพลัดตก หกล้ม อุบัติเหตุเหล่านี้ในผู้สูงอายุเป็นของคู่กันเนื่องจากการเคลื่อนไหวร่างกายที่ไม่สะดวก ประกอบกับสายตาที่มองได้ไม่ชัดเหมือนแต่ก่อน  ดังนั้นการเลือกกิจกรรมหรือการเตรียมที่อยู่อาศัย ควรมีความเหมาะสม ไม่เสี่ยงต่อการสะดุดหรือลื่นล้ม หมั่นตรวจดูความเรียบร้อยบริเวณรอยต่อ ขอบธรณีหรือบันได รวมถึงการจัดบ้านให้เป็นระเบียบ เนื่องจากการเกิดอุบัติเหตุในผู้สูงอายุ ถือเป็นเรื่องใหญ่ อาจเกิดการบาดเจ็บฟกช้ำซึ่งผลที่ตามมาจากอุบัติเหตุมักไม่ใช่เรื่องดีสำหรับผู้สูงอายุนัก อ่านบทความที่น่าสนใจ รีวิวโฟร์ยู